Hightlight 

• บมจ. เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป หรือ ‘ZEN’ ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 1/62 ทำกำไรสุทธิ 32.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33% และรายได้ 730.5 ล้านบาท เติบโต 2% 
• ตามการขยายสาขาใหม่และยอดขายจากบริการเดลิเวอรี่เติบโตดี
• แผนไตรมาส 2 เตรียมเปิดสาขาใหม่ทั้งกลุ่มร้านอาหารไทยและญี่ปุ่นอย่างต่อเนื่อง กระจายทำเลทั้งในและนอกศูนย์การค้า         

 

 

นายบุญยง ตันสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ZEN ผู้ประกอบธุรกิจบริการอาหาร (Food Services) เปิดเผยว่า ภาพรวมการดำเนินงานไตรมาส 1/62 บริษัทมีรายได้รวม 730.5 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 32.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2% และ 33% ตามลำดับเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 715.9 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 24.1 ล้านบาท แม้ว่าภาพรวมเศรษฐกิจและบรรยากาศการจับจ่ายใช้สอยช่วงที่ผ่านมาค่อนข้างชะลอตัวเมื่อเทียบกับปีก่อน  

ทั้งนี้รายได้ช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมามีการเติบโตตามการขยายสาขาใหม่ที่เพิ่มขึ้น ทั้งการขยายสาขากลุ่มร้านอาหารญี่ปุ่นและร้านอาหารไทย อาทิ แบรนด์ ZEN, AKA, On The Table, เขียง ฯลฯ และรายได้จากการให้บริการเดลิเวอรี่ที่มีอัตราเติบโตเพิ่มขึ้นทุกแบรนด์และดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ เนื่องจากสามารถตอบโจทย์ความสะดวกสบายและการใช้ชีวิตที่เร่งรีบ  บริษัทฯ จึงปรับเพิ่มเป้าหมายรายได้จากบริการเดลิเวอรี่ในปีนี้เป็น 100 ล้านบาท จากเดิม 30 ล้านบาท

ขณะเดียวกันบริษัทได้ให้ความสำคัญกับการบริหารต้นทุน การควบคุมค่าใช้จ่ายในการขายและการบริหาร (SG&A) อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การลดความสูญเสียที่เกิดขึ้นในระหว่างกระบวนการจัดเตรียมวัตถุดิบ การต่อรองราคาวัตถุดิบ ฯลฯ ส่งผลดีต่อผลกำไรในไตรมาสแรกที่ผ่านมา

แผนไตรมาส 2 ทำอะไรบ้าง? 

 

สำหรับทิศทางการดำเนินงานในไตรมาส 2/62 มีความมั่นใจว่าจะสร้างการเติบโตได้ดียิ่งขึ้น โดยมุ่งเน้นการขยายสาขาใหม่ทั้งกลุ่มร้านอาหารญี่ปุ่นและร้านอาหารไทยอย่างต่อเนื่องทุกเดือน ทั้งทำเลที่อยู่ภายในและภายนอกศูนย์การค้า รวมถึงจังหวัดเศรษฐกิจ รวมถึงแตกโมเดลขยายสาขาที่มีพื้นที่เล็กลง เพื่อกระจายทำเลเข้าถึงพื้นที่ในย่านแหล่งชุมชน หรืออยู่ภายในศูนย์การค้าประเภทคอมมูนิตี้มอลล์และไลฟ์สไตล์มอลล์ต่างๆ โดย ณ เดือนเมษายนที่ผ่านมาบริษัทฯ มีร้านอาหารเปิดให้บริการรวมทั้งสิ้น 271 สาขา

ทั้งนี้จะทยอยปรับโฉมร้านอาหารสาขาเดิมเช่น แบรนด์ ZEN, AKA, On The Table โดยคัดเลือกสาขาที่ตั้งอยู่ในทำเลที่ดี เป็นร้านอาหารโฉมใหม่เพื่อดึงดูดผู้บริโภคเข้าใช้บริการ และเพิ่มยอดขายเฉลี่ยต่อเดือนมากยิ่งขึ้น  ซึ่งจะส่งผลดีต่อการเติบโตของร้านอาหารสาขาเดิม พร้อมกันนี้จะร่วมมือกับพันธมิตรใหม่ๆ จัดกิจกรรมส่งเสริมการขายร่วมกันเพื่อขยายฐานลูกค้า

 

“แผนงานไตรมาส 2 เรายังคงลงทุนขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันบริษัทฯ ได้รับความสนใจจากศูนย์การค้าชั้นนำต่างๆ ที่กำลังวางแผนขยายสาขา ต้องการให้เราเข้าไปเปิดร้านอาหาร เนื่องจากปัจจุบันเรามีแบรนด์ร้านอาหารมากถึง 12 แบรนด์ ซึ่งเป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมจากผู้บริโภค รวมถึงได้รับการสนับสนุนจากสถานีบริการน้ำมัน ปตท.เป็นคู่ค้าหลักในการเปิดร้านเขียง ซึ่งเป็นร้านอาหารไทยตามสั่งแนวสตรีทฟู้ดที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีในช่วงที่ผ่านมา” นายบุญยงกล่าว